ดูวอลเลย์บอลหญิงเอวีซี คัพ 2022 พร้อมกติกาแบบเข้าใจง่าย
ก่อนระเบิดศึก วอลเลย์บอลหญิง AVC Cup 2022 ระหว่างวันที่ 21-29 สิงหาคมนี้ ที่ประเทศฟิลิปปินส์
สำหรับแฟนวอลเลย์บอลที่อาจจะยังไม่เข้าใจ กติกา หรือรายละเอียดที่ชัดเจน วันนี้มีวิธีดูวอลเลย์บอลหญิง โดยเฉพาะรายการ AVC Cup 2022 (เอวีซี คัพ 2022) ที่ทีมวอลเลย์บอลหญิงไทย มีคิวแข่งขันมาแบบง่ายๆ พร้อมกติกา มาให้ได้ติดตามกัน
กีฬาวอลเลย์บอล ถือว่าเป็นกีฬาที่ได้รับความนิยมในไทย โดยเฉพาะในร่มหญิง ที่ล่าสุดทำผลงานเข้าสู่รอบ 8 ทีมสุดท้ายในศึก เนชั่นส์ ลีก 2022 และเวลานี้กำลังจะต่อยอด ด้วยการแข่งขันเอวีซี คัพ 2022 โดยการแข่งขันวอลเลย์บอลมีกติกาในการเล่นดังนี้
สนามแข่งขัน
สนามแข่งขันสนามควรจะกว้าง 9 เมตร และความยาว 18 เมตร ซึ่งถือว่าเป็นขนาดมาตรฐานและถูกจัดว่าเป็นสากลนอกจากนี้ความสูงเหนือพื้นที่บริเวณที่จะทำการแข่งขัน จะต้องมีความสูงไม่ต่ำกว่า 7 เมตร เพื่อผู้เล่นจะสามารถแข่งขันได้อย่างสะดวก ไม่มีสิ่งกีดขวางในเวลาเล่นวอลเลย์บอล
สนามแข่งขันในร ่ม พื้นผิวสนามต้องเป็นสีสว่าง
สำหรับการแข่งขันระดับโลกของสหพันธ์วอลเลย์บอลนานาชาติและการแข่งขันที่เป็นทางการ เส้นสนามต้องเป็นสีขาว ส่วนพื้นสนาม แข่งขันและบริเวณเขตรอบสนามต้องเป็นสีอื่นที่แตกต่างกันออกไป สนามแข่งขันอาจมีสีที่แตกต่างกัน ซึ่งสามารถเห็นความแตกต่าง ระหว่าง แดนหน้า กับ แดนหลัง.
พื้นที่อบอุ่นร่างกาย (Warm - up area)
สำหรับการแข่งขันระดับโลกของสหพันธ์วอลเลย์บอลนานาชาติและการแข่งขันอย่างเป็นทางการ พื้นที่อบอุ่นร่างกายขนาด 3 x 3 เมตร จะอยู่ที่นอกเขตรอบสนาม ตรงมุมสนามด้านเดียวกับม้านั่งของทีม ซึ่งจะต้องไม่กีดขวางการชมของผู้ชม หรืออาจจะกำหนดให้อยู่บริเวณด้านหลังม้านั่งของทีม ซึ่งบริเวณที่นั่งชม จะต้องอยู่สูงจากพื้นสนาม 2.50 เมตรขึ้นไป.
ยกเลิกเขตลงโทษ (Penalty area)
แสงสว่าง (LIGHTING)
ควรมีความสว่าง ไม่น้อยกว่า 300 ลักซ์สำหรับการแข่งขันระดับโลกของสหพันธ์วอลเลย์บอลนานาชาติ และการแข่งขัน อย่างเป็นทางการ แสงสว่างบนพื้นที่เล่นลูกควรมีความสว่างไม่น้อยกว่า 2000 ลักซ์ โดยวัดที่ระดับความสูงจากพื้นสนาม 1 เมตร
รายละเอียดผู้เล่นในการแข่งขันวอลเลย์บอล
1.จำนวนผู้เล่นภายในทีมจะต้องไม่เกิน 12 คน
2.ในการแข่งขันผู้เล่นลงในสนามได้ 6 คน ไว้แนวด้านหน้า 3 ไว้ด้านหลัง 3
3.ผู้เล่นที่อยู่ในตำแหน่งหัวหน้าทีมจะต้องมีการระบุเอาไว้ในใบบันทึกการแข่งขัน
4.เสื้อที่สวมใส่ลงสนามจะต้องมีหมายเลขที่มีสีตัดกับสีของเสื้ออย่างชัดเจน ซึ่งหมายเลขสามารถมีตั้งแต่เลข 1 – 18 แต่ถ้าเป็นหัวหน้าทีมจะต้องมีแถบผ้าขนาด 8×2 เซนติเมตร ติดอยู่บริเวณอกเสื้อใต้หมายเลขผู้เล่น
5.ผู้เล่นตัวรับอิสระสามารถเป็นหัวหน้าทีม หรือ หัวหน้าทีมในสนามได้.
6.ในช่วงแข่งขันผู้เล่นสามารถเปลี่ยนผู้เล่นได้ และสามารถสลับผู้เล่นเข้าออกได้
7.ภายในทีมจะต้องมีเจ้าหน้าที่ทีมสามารถนั่งที่ม้านั่งได้ไม่เกิน 5 คน ประกอบด้วย ผู้ฝึกสอน 1 คน ผู้ช่วย 2 คน นักกายภาพบำบัด 1 คน และแพทย์ 1 คน โดยจะต้องมีชื่อในใบบันทึก ผู้จัดการทีม และหรือนักข่าวประจำทีม ไม่สามารถนั่งบริเวณที่นั่งผู้เล่น หรือ ด้านหลังที่นั่งภายในพื้นที่ควบคุม
ตำแหน่งผู้เล่นในการแข่งขันวอลเลย์บอล
1.ตัวเซต (Setter) จะเป็นตัวรุกในการทำคะแนนให้กับทีม โดยส่วนใหญ่ผู้เล่นในตำแหน่งนี้จะมีลักษณะคล่องแคล่วว่องไว และมีไหวพริบในการเล่นวอลเลย์บอลได้ดี
2.ตัวบล็อกกลางหรือตัวตีกลาง (Middle blocker/Middle hitter) ผู้เล่นตำแหน่ง หรือที่รู้จักอีกตำแหน่งว่า บอลเร็ว ตำแแหน่งนี้จะคอยบล็อกลูกต่าง ๆ ที่พุ่งเข้ามา
3.ตัวตีด้านนอกหรือตัวตีด้านซ้าย (Outside hitter / Left side hitter) ลักษณะส่วนใหญ่ของผู้เล่นตำแหน่งนี้จะต้องเป็นตัวตบที่มีฝีมือได้ดีที่สุด โดยจะมีหน้าที่บุกเกมจากเสาด้านซ้าย
4.ตัวตีตรงข้ามหรือตัวตีด้านขวา (Opposite hitter / Right side hitter) ทำหน้าที่ป้องกันการโจมตีของคู่ต่อสู้ทีมตรงข้าม และนอกเหนือจากนี้ยังเป็นตัวเซตสำรองอีกคนหนึ่งภายในทีม
5.ตัวรับอิสระ (Libero) ตำแหน่งนี้จะต้องสวมชุดแข่งขันโดยเฉพาะ และสีชุดจะไม่เหมือนในทีม เพื่อที่แสดงชัดว่าเป็นตำแหน่งรับลูกเป็นหลัก
6.ตำแหน่งตัวตบยืนตรงข้ามกับตัวเซต (OPP/opposite setter) หรือตำแหน่งบีหลัง เป็นตัวทำแต้มหลัก โดยไม่รับบอลเสิร์ฟไม่ว่ากรณีใด จะรอบุกอย่างเดียว จากเสาขวา และตำแหน่ง 1 ถ้าเทียบตำแหน่ง OPP ของเอเชียจะเน้นความเหนียวมากกว่า ช่วยเกมส์รับ และรับบอลเสิร์ฟได้ด้วย
การแข่งขันวอลเลย์บอล
1. เมื่อได้ทีมที่จะได้เสิร์ฟเป็นที่เรียบร้อยแล้ว จะต้องให้คนที่อยู่ในจุดขวาหลังสุด เป็นผู้เสิร์ฟเพื่อเปิดเกม เมื่อเริ่มต้นการแข่งขันแล้วผู้เล่นทุกคนในสนามทุกตำแหน่ง จะต้องขยับตำแหน่งวนไปในลักษณะแบบตามเข็มนาฬิกา
2. ในช่วงที่ผู้เล่นจะทำการเสิร์ฟลูกในตอนเปิดเกม จะต้องรอสัญญาณนกหวีดจากกรรมการ ถึงจะค่อยเสิร์ฟได้
3. การเสิร์ฟลูกฝั่งไหนชนะถึงจะได้เสิร์ฟอยู่ตลอด และเมื่อแพ้ค่อยเปลี่ยนฝั่ง
4. ผู้เล่นสามารถขอเวลานอกได้ 2 ครั้งต่อ 1 เซต โดยขอเวลานอกได้ที่ 30 วินาที สำหรับการแข่งขันระดับโลกของสหพันธ์วอลเลย์บอลนานาชาติและการแข่งขันที่เป็นทางการ ช่วงเวลาของเวลานอกอาจมีการปรับได้ตามการร้องขอของเจ้าภาพ ทั้งนี้ต้องได้รับการรับรองจาก FIVB
5. ผู้เล่นสามารถป้องกันลูกบอลจากทีมตรงข้ามบริเวณหน้าตาข่ายได้ แต่ถ้าผู้เล่นล้ำพื้นที่หรือเข้าไปในบริเวณฝั่งตรงข้าม จะถือว่าฟาวล์ทันที
6. ทีมใดทำลูกไปตกอีกฝั่งได้ จะถูกนับเป็น 1 คะแนน
7. ทีมใดทำคะแนนถึง 25 คะแนนก่อนจะถือว่าเป็นผู้ชนะในเซตนั้น
8. แต่ถ้าเสมอในคะแนน 24-24 จะมีการดิวซ์ (Deuce) ที่หากใครได้ 2 คะแนนก่อน ก็จะเป็นผู้ชนะ
9. เมื่อจบเกมในแต่ละเซต จะต้องมีการเปลี่ยนฝั่งผู้เล่นให้สลับกัน
10. ทีมใดสามารถทำคะแนนชนะ 3 เซตภายใน 5 เซตได้ก่อน ถือว่าทีมนั้นเป็นผู้ชนะในเกมวอลเลย์บอลนั้น โดยเซตที่ 5 จะเล่นถึงเพียง 15 คะแนน
กฎการชาเลนจ์ (Challenge) ระบบภาพช้า ในกีฬาวอลเลย์บอล
1. ต้องกระทำก่อนจะเริ่มต้นคะแนนต่อไป และหลังจบจากการตัดสินของคะแนนนั้นแล้วไม่เกิน 5 วินาที (คือเล่นๆอยู่ เห็นอีกทีมฟาวล์แล้วจะหยุดเล่นทันทีเพื่อดูภาพช้าไม่ได้ ต้องเล่นให้จบก่อนแล้วค่อยร้องขอ)
2. แต่ละทีมสามารถร้องขอได้สองครั้งต่อเซ็ท ถ้าทีมที่ทำการร้องขอเป็นฝ่ายถูกจะไม่เสียสิทธิการชาเลนจ์ แต่ถ้ากรรมการตัดสินถูกแล้วจะโดนตัดไปหนึ่งสิทธิทันที
3. กรรมการคนที่หนึ่ง(ผู้ตัดสินหลัก) จะสามารถเรียกขอดูวิดีโอกี่ครั้งก็ได้
4. สามารถทำการร้องขอจากข้อสงสัยในสิ่งที่เกิดขึ้นได้ดังนี้
– ลูกสัมผัสพื้นภายในหรือภายนอกเส้น
– บอลโดนเสาอากาศ
– ร่างกายนักกีฬาสัมผัสกับเสาอากาศหรือเน็ต
– การเหยียบเส้นขณะเสิร์ฟ, เหยียบเส้นสามเมตรจากการกระโดดตบจากแดนหลัง และการยื่นเท้าออกมาเกินแดนตัวเอง
– ตำแหน่งเท้าของลิเบอโร่ขณะรับลูก
5. กรรมการตัดสินคนที่สองมีหน้าที่ออกจากสนามเพื่อดูภาพช้า และภาพช้านั้นต้องถูกนำขึ้นมอนิเตอร์ให้ทั้งสองทีมและ
ผู้ชมเห็น
6. หลังจากดูแล้ว กรรมการคนที่สองจะส่งสัญญาณให้กรรมการคนที่หนึ่งว่าใครเป็นฝ่ายได้แต้ม
7. กรณีที่ดูภาพช้าแล้วไม่สามารถตัดสินแต้มนั้นได้ คำตัดสินของกรรมการที่หนึ่งถือว่าเป็นอันสิ้นสุด ทีมที่ร้องขอไม่เสียสิทธิ
รายละเอียดเงื่อนไขอื่นๆ ของการแข่งขันวอลเลย์บอล
1. ในช่วงเวลาที่จบเซตในแต่ละเซต ผู้เล่นจะมีเวลาพักอยู่ที่ 3 นาที
2. ผู้เล่นสามารถถูกลูกบอลนอกเหนือจากการบล๊อกลูกได้ 3 ครั้ง ถ้าผู้เล่นถูกลูกบอลมากกว่านี้จะให้ถือว่าฟาวล์หรือทำผิดกติกาทันที
3. ในช่วงขณะกำลังแข่งขัน ผู้เล่นจะไม่สามารถถูกลูกบอล 2 ครั้งต่อต่อกันได้
4. ไม่สามารถเปลี่ยนตัวผู้เล่นในช่วงระหว่างการแข่งขันได้ ถ้าหากผู้เล่นคนนั้นไม่ได้มีชื่อในการเข้าแข่งขันในรอบนั้น